ประเทศไทย 4.0 รถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ให้สัมภาษณ์วันก่อนว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หนึ่งในนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ที่มีการเปิดเผยออกมาแล้วก็คือ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ คุณหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการบีโอไอ ระบุว่า จะให้การส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน แม้จะยังไม่มีใครขอมาก็ตาม
คุณพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก็แถลงก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลต้องการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวไปสู่ “อุตสาหกรรม 4.0” และบอกว่า ปลายปีนี้จะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนในเมืองไทย
ก็ยังไม่รู้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า ที่ รัฐมนตรีพิเชฐ บอกว่าจะเห็นวิ่งบนถนนในปลายปีนี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในเมืองไทย หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า อย่างรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla ของสหรัฐฯ ที่ผมเคยเขียนถึงหลายครั้ง ก็มีคนนำเข้ามาขายในเมืองไทยแล้ว
ผมก็ชอบรถยนต์ไฟฟ้า เป็นรถยนต์แห่งอนาคตที่น่าใช้ทีเดียว
ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองผลิตรถยนต์ “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” และเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของโลก การก้าวให้ทันเทคโนโลยีรถยนต์โลกที่เปลี่ยนไป จึงสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อแนวโน้มรถยนต์ในโลกอนาคต เปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ประเทศไทยก็ควรจะปรับตัว วางพื้นฐานไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกัน
แม้ รัฐมนตรีพิเชฐ และ เลขาธิการบีโอไอ จะออกมาประกาศ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลยังส่งเสริมให้บริษัทรถยนต์ผลิต รถยนต์อีโคคาร์ 1 อีโคคาร์ 2 รุ่นโบราณอยู่ ทั้งที่ควรจะยกเลิกไปได้แล้ว
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นเรื่องใหญ่ ส่งผล กระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งระบบ ตั้งแต่การออกแบบ ชิ้นส่วน แบตเตอรี่ ไปจนถึงสายพานการผลิต ซึ่งต้องลงทุนใหม่หมดเป็นเงินมหาศาล เรื่องนี้จะเล่นไปตามกระแสไม่ได้
จากข้อมูลที่ผมพอจะมีบ้าง รถยนต์ใช้น้ำมัน จะมี ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อน 2,000 กว่าชิ้น ส่งผลให้เกิดความสิ้นเปลืองพลังงานมาก ต้องซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนบ่อย จากความสึกหรอที่เกิดขึ้น แต่ รถยนต์ไฟฟ้า มีชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนเพียง 18 ชิ้น ทำให้มีพลังงานขับเคลื่อนสูง ประหยัดพลังงานกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันหลายเท่า รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ อย่างแท้จริง
แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมที่จะปฏิวัติเปลี่ยนจากการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าหรือยัง
เป็นคำถามที่รัฐบาลจะต้องตอบออกมาให้ชัดเจน
ไม่ใช่จู่ๆรัฐบาลก็มาบอกว่า จะส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมรถยนต์เก่าก็มีหวังเจ๊งกันระนาว โดยเฉพาะ โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ใช้น้ำมัน ขนาด บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น แม้จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้เองทั้งหมด ก็ยังไม่กล้าเปลี่ยนทันที กลัวบริษัทลูกและบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีอยู่จะเจ๊งหมด แต่ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลิตเป็น รถยนต์ไฮบริดบ้าง รถยนต์ไฟฟ้าบ้าง คละกันไป ให้ทุกฝ่ายอยู่รอด
การเปลี่ยนผ่านเป็นเรื่องยาก แตกต่างจาก บริษัทรถยนต์ Tesla ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ไม่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนเก่าที่ต้องรับผิดชอบ ชิ้นส่วนที่ใช้ก็มีแค่ 18 ชิ้นเท่านั้น ทุกอย่างจึงง่ายไปหมด
การส่งเสริม รถยนต์ไฟฟ้า ถ้ารัฐบาลต้องการทำทันที ผมคิดว่าทำแบบอเมริกาก็ได้ ให้ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะนำเข้าหรือผลิตในประเทศ สามารถขอคืนภาษีได้ก้อนหนึ่ง เหมือนเป็นส่วนลด เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย.
บทความโดย “ลม เปลี่ยนทิศ” : http://www.thairath.co.th/content/650202