หลายคนอาจมองว่า “ไส้กรอง” ในรถยนต์เป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีผลอะไรมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่า ไส้กรองแต่ละชนิดนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบปรับอากาศ หรือแม้แต่ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง หากละเลยการดูแลหรือเปลี่ยนไส้กรองตามระยะ อาจทำให้รถของคุณเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คิด
ไส้กรองรถยนต์มีกี่ประเภท แต่ละชนิดทำหน้าที่อะไร
1. ไส้กรองอากาศ (Air Filter)
หน้าที่ของไส้กรองอากาศคือดักจับฝุ่นละออง สิ่งสกปรก ที่มากับอากาศ ถ้าไส้กรองอากาศตัน จะทำให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้รถเร่งไม่ขึ้น กินน้ำมัน และเกิดควันดำตามมาสร้างมลพิษแถมรถพังไวขึ้นด้วย
2. ไส้กรองน้ำมันเครื่อง (Oil Filter)
ไส้กรองน้ำมันเครื่องมีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกที่ปะปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง เช่น เขม่าคาร์บอน เศษโลหะ หรือสิ่งตกค้างจากการเผาไหม้ หากกรองไม่ดีพอ จะทำให้น้ำมันเครื่องไม่สะอาด ส่งผลต่อการหล่อลื่นและลดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
3. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Filter)
ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนจะเข้าสู่ระบบหัวฉีดหรือคาร์บูเรเตอร์ หากไส้กรองตัน อาจทำให้แรงดันน้ำมันตก เครื่องยนต์สะดุด หรือสตาร์ทยาก ลำบากแน่เวลารีบไปธุระ
4. ไส้กรองแอร์ (Cabin Air Filter)
ไส้กรองแอร์ช่วยกรองฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ และละอองเกสรที่เข้าสู่ห้องโดยสาร ช่วยให้อากาศในรถสะอาดสดชื่น หากปล่อยไว้นานโดยไม่เปลี่ยน อาจทำให้แอร์มีกลิ่นอับ แรงลมเบาลง และส่งผลต่อสุขภาพของผู้โดยสาร
4 เหตุผล ว่าทำไมการเปลี่ยนไส้กรองจึงสำคัญ
1. ป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์
การปล่อยให้ไส้กรองเสื่อมสภาพหรือตัน อาจทำให้สิ่งสกปรกเล็ดลอดเข้าสู่ระบบต่างๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เช่น หัวฉีดอุดตัน หรือเครื่องยนต์ชำรุด
2. รักษาประสิทธิภาพการทำงานของรถ
ไส้กรองที่สะอาดช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ แรงม้าไม่ตก และช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้จริง
3. เพิ่มอายุการใช้งานของรถยนต์
รถที่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามระยะ โดยเฉพาะในเรื่องของไส้กรอง จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ลดความเสี่ยงในการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง
4. ลดมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์ที่สะอาดย่อมปล่อยไอเสียได้น้อยกว่า ลดควันดำและลดการปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม
สัญญาณที่บอกว่าควรเปลี่ยนไส้กรอง
- เร่งเครื่องแล้วอืด หรือรอบตก
- แอร์มีกลิ่นอับ แรงลมเบาลง
- สตาร์ทรถติดยาก หรือเครื่องยนต์สะดุด
- น้ำมันหมดเร็วกว่าปกติ
หากพบอาการเหล่านี้ ควรตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองรถยนต์โดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจตามมา อย่านิ่งนอนใจว่ามันไม่สำคัญนะครับ ก่อนที่จะนั่งกุมขมับกับค่าซ่อมที่มากกว่าแค่เปลี่ยนไส้กรอง แต่ถ้าคุณไม่รู้จะปรึกษาใคร
อย่าลืมนึกถึงเรา CNC789 ร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ทุกชนิด ที่มีบริการครบวงจร ทั้งสินค้าคุณภาพสูง ราคาถูก และบริการติดตั้งพร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ โทร 064-554-4954 Line Add : @charoensakinfo
บทสรุป
ไส้กรองอาจเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ แต่กลับมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของรถยนต์ในทุกๆ ด้าน การดูแลและเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ยังยืดอายุรถยนต์ ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และ ควรตรวจสอบไส้กรองทุกๆ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร หรือเร็วกว่านั้นหากขับในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นเยอะ เช่น ถนนลูกรัง หรือเมืองที่มีมลพิษสูง
ความเห็นของคุณ
comments