หรือแอปเปิลกำลังสับขาหลอก เพราะแม้ซีอีโอเพิ่งแถลงไขไปเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไม่มีแผนผลิตรถเอง แค่เล็งพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ แต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว 
รายงานจาก Yicai Global ที่อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน บอกว่า แอปเปิลเซ็นสัญญาลับกับ CATL ที่แตกมาจากแอมเพอเร็กซ์ เทค ซึ่งเป็นซัปพลายเออร์แบตเตอรี่รายใหญ่สุดสำหรับอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ของแอปเปิล
บริษัทที่ปรึกษา ซีซีไอดี คอนซัลติ้งเชื่อว่า ถ้าแอปเปิลร่วมมือกับ CATL จริง เป็นไปได้ว่า บริษัทไฮเทคแห่งนี้ยังไม่ถอดใจเสียทีเดียวกับโครงการผลิตรถ เนื่องจากส่วนประกอบหลักของรถไฟฟ้าอัตโนมัติคือแบตเตอรี่
นอกจากนั้น หากข่าวนี้เป็นจริง ยังเท่ากับว่า แอปเปิลฝันไกลกว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับคอนเน็กเต็ดคาร์และยานยนต์ไร้คนขับ และยังเป็นการเสี้ยมแอปเปิลชนกับเทสลาที่มีธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าเป็นของตัวเอง
ปีที่แล้ว เทสลา ผู้ผลิตรถไฟฟ้ามาแรงแห่งยุค เข้าซื้อกิจการโซลาร์ซิตี้ และดันตัวเองเป็นบริษัทที่นำเสนอโซลูชันพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้สำหรับครัวเรือน ไล่ตั้งแต่หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ไปจนถึงระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ และรถไฟฟ้า
เทสลายังสำรวจตลาดนอกเหนือจากอเมริกาและยุโรป โดยกำลังพิจารณาบุกแดนภารตะที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการวางแผนการเพื่อบังคับให้รถทุกคันที่ออกจำหน่ายนับจากปี 2030 ต้องเป็นรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่สำคัญเทสลายังทำยอดขายเพิ่ม 3 เท่าในจีนที่เป็นตลาดรถไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก
หลายปีมานี้มีเสียงเล่าลือระงมว่า แอปเปิลอาจกระโจนลงเล่นในตลาดรถไฟฟ้า บ้างเดาว่า คงจะออกมาในรูปการจัดหาซอฟต์แวร์ให้ผู้ผลิตรถ แต่บางคนคิดว่า แอปเปิลน่าจะลงมือผลิตรถเอง
จนมาถึงปีที่แล้วยิ่งลือกันหนักว่า ผู้ผลิตไอโฟนกำลังซุ่มทำรถไฟฟ้าอัตโนมัติภายใต้ชื่อรหัส “โปรเจ็กต์ ไททัน” กระทั่งมีหลักฐานยืนยันจากบลูมเบิร์กช่วงต้นปีนี้เป็นรูปเลกซัส RX450h สีขาว ติดตั้งแผงเซ็นเซอร์ที่รวมถึงระบบ LiDAR 64 แชนเนล, เรดาร์ 2 ตัว และกล้องอีกจำนวนหนึ่ง รถที่ว่าวิ่งอยู่บนถนนในซานฟรานซิสโก
และแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แอปเปิลก็ออกมาเปิดใจครั้งแรกว่า บริษัทกำลังพัฒนาแพล็ตฟอร์มสำหรับการขับขี่อัตโนมัติ ยังไม่มีแผนผลิตรถเองเร็วๆ นี้
แต่ข่าวคราวล่าสุดเรื่องการร่วมมือกับ CATL ทำให้ผู้สนใจตั้งวงซุบซิบรอบใหม่ว่า โปรเจ็กต์ ไททันอาจกำลังซุ่มทำรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบมากกว่าแค่ระบบรถไร้คนขับที่สามารถติดตั้งในรถประเภทไหนก็ได้
การเป็นพันธมิตรกับ CATL ถือเป็นพัฒนาการสำคัญสำหรับโปรเจ็กต์ ไททัน เนื่องจากตอต้นใหญ่ในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าก็คือการผลิตแบตเตอรี่นั่นเอง
ปีที่ผ่านมา CATL เพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน 3 เท่า และมีแผนขยับขยายเป็น 50 GWh ในปี 2020 ซึ่งหากสำเร็จ จะทำให้บริษัทแห่งนี้กลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนอันดับ 2 ของโลกรองจากเทสลา/พานาโซนิก
นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ CATL เพิ่งเซ็นสัญญาเป็นซัพพลายเออร์ให้เนชันแนล อิเล็กทริก เวฮิเคิล สวีเดน (NEVS) ที่เข้าซื้อกิจการซาบ ออโตโมบิลเมื่อปี 2012 เพื่อจัดหาแบตเตอรี่ให้ NEVS นำไปผลิตรถไฟฟ้าออกมาปีละหลักแสนคัน
ดังนั้น ถ้าแอปเปิลเอาแน่กับโครงการรถไฟฟ้า CATL ก็น่าจะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
ความเห็นของคุณ
comments